[Short Fiction] แค่หายตัวห่างหัวใจนิดหน่อย ♥
#คนที่อ่านฟิคนี้จนจบแสดงว่าหื่น#
#ภาษาแย่มากจ่ะ
อ่านแล้วไม่เข้าใจก็โต้ดๆนะ#
“ริท
มึงจะอยู่อ่านหนังสือป่ะวะ”
“ทำไม กูว่าจะกลับละ กะจะไปอ่านที่คอนโด… มีไรเปล่า”
“กะจะให้ช่วยติวให้หน่อย
เป็นอีสุกอีใสหยุดไปหลายวันตามอะไรไม่ทันเลย แต่มึงจะกลับแล้วก็ไม่เป็นไร”
ผมที่สะพายเป้คู่ใจแล้วต้องถอดเป้แล้ววางลงบนโต๊ะอีกรอบ
กุญแจรถที่หยิบออกมาไว้ในมือก็ยัดใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่เดิม
“อยู่ก็ได้ เห็นว่าคนที่เก่งที่สุดให้ช่วยติวให้นะเนี่ย..
จะได้รู้สึกชนะมึงบ้างซะที” ผมพูดขำๆ เปิดชีทไปพลางๆ
ก็ไอ่คนข้างๆผมมันมีนามว่าวิน เป็นพาร์ทเนอร์ (บัดดี้ เพื่อนสนิท) ที่สุดในคณะ
มันเรียนเก่งมากๆ ได้ 4.00 ทุกบล็อกที่เรียน
แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมันหยุดไปเพราะเป็นอีสุกอีใส มันเลยตามไม่ทัน
กลายเป็นหน้าที่คู่หูอย่างผมที่ต้องปฏิบัติหน้าที่สอนมันทุกอย่างที่มันไม่เข้าใจ..
นักศึกษาแพทย์นี่ครับ หยุดยาวทีนี่ต้องอ่านหนังสือหัวปั่น
“ขอบคุณนะมึง”
ผมยิ้มให้มันเบาๆ แล้วเปิดอ่านไปเรื่อยๆ
ห้าโมงเย็นแล้ว… ที่นี่ก็มีแต่นักศึกษาแพทย์ปีสองอย่างพวกผมที่คร่ำเคร่งกับการอ่านหนังสืออยู่
มองไปทางไหนก็เจอแต่ตัวหนังสือเต็มไปหมด..
ทวนไอ้วินก็เหมือนทวนให้ตัวเองไปด้วย
“มึงไม่มีนัดที่ไหนนะ..”
“น่าจะไม่มี…”
ตอนที่ผมตอบมันว่าไม่มี ในใจรู้สึกโหวงๆแปลก เหมือนว่าผมทำอะไรผิด
พลันโทรศัพท์เจ้ากรรมในกระเป๋าก็สั่น ก่อนจะแผดเสียงร้อง ผมรีบกดรับทันทีเพราะกลัวว่าจะรบกวนนักศึกษาคนอื่นเค้า
ไอ้วินมันรู้ว่าผมคุยโทรศัพท์แล้วจะคุยเสียงดัง
มันเลยชี้มือปัดๆให้ผมเดินออกไปข้างนอกห้อง…
“…ครับ”
“รออยู่ข้างหน้าตึกนะ”
ให้ตายเถอะ วันนี้มีนัดกับพี่โน่.. สัญญากันตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะไปดูหนังหลังเลิกเรียน
พี่แกคงจะมารอรับผมอยู่ข้างหน้าตึก แต่ทำไงได้ ผมจะทิ้งเพื่อนแล้วไปหาแฟนงั้นเหรอ
เพื่อกำลังลำบากแต่ผมกำลังจะไปรื่นเริงกับแฟน มันดูเป็นเพื่อนที่เลวยังไงก็ไม่รู้
ผมเดินออกไป เห็นร่างสูงในชุดไปรเวทธรรมดาแต่สวมแว่นตาเรย์แบรนด์ยืนท้าวรถมอเตอร์ไซค์คันโก้ของตัวเองอยู่..
ฝนข้างนอกเพิ่งหยุดตกไปไม่นาน แสดงว่าพี่โน่เพิ่งมา
วันนี้คณะพี่โน่มีเรียนแค่ตอนเช้า ส่วนผมเรียนทั้งวัน..
“ไหนกระเป๋าล่ะ”
มันมองหาเป้ที่ผมวางไว้บนโต๊ะข้างในครับ
“ไปไม่ได้แล้วอ่ะพี่ ไอ้วินขอให้อยู่ช่วยติวหนังสือ
พี่ไปคนเดียวก่อนนะ” จับมือพี่โน่เขย่า
ส่งสายตาอ้อนวอนเต็มที่ แต่พี่มันทำหน้าไม่พอใจแล้วก็ส่ายหน้า
ลูกอ้อนของผมใช้ได้ผลบ่อย แต่ครั้งนี้ดูยากแฮะ
เพราะเราเกี่ยวก้อยสัญญากันแล้วว่าจะไปดูหนังกัน
“เรานัดกันแล้วนะริท”
“แต่ไอ้วินมันอ่านหนังสือไม่ทัน
ริทต้องอยู่ช่วย”
“แล้วถ้าพี่บอกว่าให้ริทช่วยไปเที่ยวกับพี่บ้าง
ริทจะเลือกไปกับพี่มั้ย…”
“ไปไม่ได้จริงๆพี่…”
“ริทเป็นเพื่อนสำคัญกว่าแฟนตัวเองหรอ” คือถามบ้าอะไร…
คำถามงี่เง่าชะมัด ไม่มีใครสำคัญกว่าใครทั้งนั้นแหละ
แต่เพื่อริทกำลังเดือดร้อนเพราะอ่านหนังสือไม่ทัน
แต่จะให้ริทไปสนุกสนานรื่นเริงมันไม่ใช่เพื่อนที่ดีชัดๆ
เป็นแฟนแพทย์หรือนักศึกษาแพทย์มันก็ต้องทำใจ เวลาว่างแทบจะไม่มี
แต่พี่โน่เขาเลือกผมเอง เข้ามารักผมเอง
พี่เขาก็ควรจะรู้ตัวตั้งแต่แรกแล้วว่าเราไม่ได้ใกล้ชิดกันบ่อยๆ
แต่ถ้าว่างเมื่อไหร่เราก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งหมด
เพื่อทดแทนเวลาที่ขาดหายไป
“พี่โน่.. เข้าใจริทหน่อยสิ เดี๋ยววันหลังเราค่อยไปนะ
หนังเรื่องที่พี่อยากดูมันก็เพิ่งเข้า ผัดไปอีกวันสองวันจะเป็นไรไป
มันไม่หนีพี่ไปไหนหรอก”
“แต่กว่าพี่จะหาเวลาว่างตรงกับริทได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ”
“ก็เดี๋ยวริทจะเคลียร์ทุกอย่างเพื่อไปกับพี่เลยไง
วันเสาร์อาทิตย์นี้ริทว่าง..แต่ตอนนี้ริทขออยู่ช่วยวินก่อน
อาทิตย์หน้าก็จะสอบบล็อกนี้แล้ว”
“แล้วริทไม่อ่านหนังสือหรือไง วันเสาร์อาทิตย์อ่ะ”
ไปต่อไม่ถูกเลย
มันเป็นเรื่องจริงที่เสาร์อาทิตย์ก่อนสอบผมจะไม่ไปไหน..
ต้องอ่านชีทที่มีทวนไปทวนมาจนกว่าจะมั่นใจว่าจะทำข้อสอบได้
“ก็…เอ่อ”
ผมกระพริบตาปริบๆ
พี่โน่ดึงมือตัวเองที่ผมจับอยู่ออก…แล้วเดินกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง
ก่อนจะสวมหมวกกันน็อค..เขาก็หันมามองหน้าผมอย่างผิดหวังแล้วพูดอะไรบางอย่าง
“จะทำอะไรก็ทำไป.. ความสำคัญของพี่เท่าเพื่อนริทเมื่อไหร่…เราค่อยมาว่ากัน”
พี่โน่ขึ้นคร่อมรถเขาแล้วสตาร์ทจนเสียงเครื่องยนต์ดังไปทั่วบริเวณ
แบบนี้เรียกว่าเราทะเลาะกันใช่ไหม..
ผมยืนมองรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่เคลื่อนออกไปอย่างเหงาหงอยเหมือนถูกทิ้งยังไงยังงั้น
ทั้งๆที่ผมตัดสินเลือกที่จะอยู่ที่นี่แท้ๆ แต่เอาเถอะ.. เดี๋ยวค่อยกลับไปง้อก็ได้
ผมรู้.. ว่าเวลาจะง้อต้องทำยังไง ต้องเอาอะไรเข้าแลก..
พี่แกเคยบอกว่า แค่ ‘เสียงคราง’
ของผมกับการอยู่ข้างบนให้นั่นคือการง้อที่ได้ผลที่สุด…
มันเป็นอะไรที่หื่นเอามาก ๆ
แต่ถ้าผมปล่อยให้เขาหายงอนเองนี่คงได้อกแตกตายกันพอดี
“ไง เดินเป็นหมาหงอยมาเชียว”
“ไม่มีอะไร อ่านต่อสิ มีอะไรก็ถามแล้วกัน…”
มันไม่ใช่นิสัยของผมเลยที่พอว่างแล้วจะกดโทรศัพท์แบบนี้เนี่ย
ธรรมดาจะนั่งอ่านหนังสือเอาเป็นเอาตาย แต่เพราะคนที่ผมแคร์เขางอนผม จะให้ผมทำยังไง
เป็นห่วงก็เป็นห่วง ไม่รู้อารมณ์เสียไปถึงไหนต่อไหน ถนนยิ่งลื่นๆ อยู่ด้วย
ถ้าเป็นอะไรขึ้นมา ไม่ใช่ว่าต้องให้ผมไปง้อถึงโรงพยาบาลเพราะนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ที่นั่นหรอกนะ
ผมส่งอีโมชั่นในไลน์ที่เป็นรูปหัวใจไป 10 ดวง..
สติ๊กเกอร์หมีบราวน์นี่ทำหน้าสำนึกผิด..
แล้วก็สติ๊กเกอร์ของเมืองไทยประกันชีวิตที่เขียนว่า ‘รักนะ
จุ๊บๆ’ ไปให้
หวังว่าพอเขาได้เปิดดูแล้วจะลดดีกรีการงอนเราลงมาบ้าง
ผมจะได้ไม่ต้องใช้วิธีง้อที่เขาบอกว่าดีที่สุดไปง้อเขา
ไม่ชอบเลยเวลาทะเลาะหรืองอนกันแบบนี้ คงเป็นเพราะเรารักกันมาก..
จนรู้สึกอึดอัดเวลาที่ต้องผิดใจ
ถ้าตอนนี้เขาอยู่ตรงหน้าผม ผมวิ่งไปกอดแล้วเนี่ย..
กว่าไอ้วินจะอ่านหนังสือเสร็จก็หลายชั่วโมง ผมนอนหลับรอมันตั้งนาน
เรียกว่ามันไม่ได้ให้ผมช่วยอะไรเลย ให้มานั่งเป็นเพื่อนเฉยๆ
สงสัยผมจะทะเลาะกับพี่โน่ฟรีๆแน่เลย
“เออ กลับดีๆนะ”
เราเดินแยกไปคนละทางครับ.. รถผมจอดอยู่ที่ข้างตึกนี้
ส่วนรถไอ้วินจอดอยู่ข้างหลัง
นี่ถ้าผมไปดูหนังกับพี่โน่ผมคงทิ้งรถไว้ที่นี่…
แล้วซ้อนมอเตอร์ไซค์พี่โน่ไป..
แต่ตอนนี้ผมต้องกลับคนเดียวซะงั้น
..
คืนนี้คอนโดผมผมไม่กลับมันแม่งละ
หักพวงมาลัยเลี้ยวไปอีกทางเพื่อไปคอนโดของอีกคนที่กำลังงอนผมอยู่… ให้ตายเถอะ รองจากพ่อและแม่ผมแคร์พี่มันมากอยู่คนเดียวนะ ไม่รักไม่ไปง้อ
ไม่เอาเวลานอนไปทำอะไรด้วยหรอก(หมายถึงดูหนัง)
เจ้าเล่ห์มากเลยแฟนผม งอนทั้งทีก็งอนไม่เนียน..
ที่คอนโดเขาจะเว้นที่ไว้ให้รถคนละคัน แต่รถพี่โน่เป็นมอเตอร์ไซค์
ธรรมดาก็จะจอดตรงกลางเลน แต่นี่เหมือนจงใจหลบให้ผมเข้าไปจอดได้สะดวกซะงั้น
ผมเดินเข้าไปข้างในยื่นถุงหมี่เกี๊ยวที่ซื้อมาเผื่อพี่ยามที่นั่งเฝ้ายามอยู่..
ก่อนจะค่อยขึ้นลิฟท์ไปชั้น
12
ก๊อกๆ
เคาะชุดแรกไม่มีเสียงตอบรับ..
ก๊อกๆ
ชุดที่สองก็เหมือนกัน…
ไม่ทนเคาะชุดที่สามให้เจ็บมือ..ผมก็เปิดประตูเข้าไป
ข้างในมืดสลัว มีแสงออกมาจากในห้องครัวกับช่องใต้ประตูห้องนอน..
ผมปิดประตูห้อง และกดล็อค… ผมหันมาอีกทีแสงไฟที่ลอดมาตามช่องใต้ประตูมันก็ไม่มีแล้ว
พี่โน่กำลังจะเล่นบ้าอะไรเนี่ย…
ผมเอาเป้ไปวางไว้บนโซฟาในห้องนั่งเล่นแล้วเดินกลับมาที่หน้าห้องนอน
แล้วตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปทันที..
ข้างในห้องมืดสนิท แอร์เย็นเฉียบ
พอผมปิดประตูห้องนอนเสร็จเลยรีบควานหาสวิตซ์ไฟ แต่ยังไม่ทันได้เปิด
ก็มีมือปริศนาจับเข้าที่ข้อมือผมแล้วออกแรงดึงจนผมไปอยู่ในอ้อมกอดของคนคนนั้น…
พี่โน่กอดผมจากข้างหลัง กดจมูกโด่งๆลงมาที่แก้มผม
ก่อนจะไล้จมูกไปจนถึงใบหู.. ส่วนผมขนลุกเกรียวเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแอร์มันเย็นไป
หรือว่าอะไรที่มันกำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้
“บุกรุกห้องคนอื่น พี่แจ้งตำรวจจับได้นะ”
“ลองมาจับสิ ริทจะได้แจ้งกลับว่าพี่โน่เคยพาริทมาทรมานที่นี่ถึงสามวันสามคืน”
ผมตอบอย่างไม่ยอมแพ้
ก็พี่มันเคยกักกังหน่วงเหนี่ยวผมไว้ตั้งนานแถมยังทำการทรมานร่างกายผมทั้งวันทั้งคืน…
“ถ้าพี่แจ้งตำรวจ พี่คงโดนแจ้งกลับ งั้นพี่จับด้วยตัวพี่เองดีกว่า..
พี่จะเป็นหน่วยสวาท สั่งสอนเด็กที่ผิดสัญญาให้หมดฤทธิ์…ดีมั้ย” จมูกโด่งกดลงที่ซอกคอผมเบาๆ
แต่เต็มไปด้วยความหลงใหลที่ผมสัมผัสได้
“ขอโทษนะพี่โน่ แต่พี่ก็ต้องเข้าใจว่าริทไปตามนัดไม่ได้จริงๆ…”
“ไม่ยกโทษให้หรอก”
ผมแกะมือพี่โน่ที่กอดผมอยู่ออก
“งั้นริทกลับนะ ว่าจะมาค้างด้วย แต่เจ้าของห้องเค้าโกรธริทอยู่
ริทคงอยู่ไม่ได้แน่ๆเพราะอึดอัดที่ต้องอยู่กับคนที่เขางอนริท…”
มือหนาจับที่ข้อมือผมอีกครั้ง ผมพยายามมองตาพี่โน่ในความมืด
..
“ง้อสิ ง้อพี่ก่อน…”
“ทำไปพี่โน่ก็ไม่หายโกรธหรอก พี่โกรธริทอยู่นี่
ทำไปมันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าไม่ได้เกิดจากความรู้สึกดีๆ”
“ก็ง้อนะ ง้อนิดนึง แบบที่เคยทำ… แบบที่พี่เคยบอกไง…นะ”
แล้วจะพูดทำแป๊ะอะไร ถ้าพี่จะผลักผมลงเตียงขนาดนี้..
มันมืดจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ผมเชื่อฝีมือพี่โน่เขาเลย
จะจับอะไรผมที่ก็ถูกที่ไปหมด ต่างกับผมที่มือไม้สะเปะสะปะไปทั่ว
“อื้อ ริท…ตัวหอมจัง…”
ทุกอย่างค่อยดำเนินไปช้าๆ แต่ชัดเจนในทุกสัมผัส
รอยจูบที่พี่เขาประทับไปทั่วตัวผมครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความรักที่เขามีให้…
ผมทำตามที่เขาชอบ ทำแบบที่เราเคยทำให้กัน ยิ่งแนบชิดเท่าไหร่
ยิ่งปลุกอารมณ์ดิบในร่างกายให้รุกโชน…
ครั้งแล้วครั้งเล่า…
บอกรักกันไปเรื่อยๆ…
ให้ทดแทนช่วงเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ให้ทดแทน…ทุกๆ อย่าง
[Tono]
หลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้… หลังจากที่ผ่านไปหลายรอบเราก็นอนแหย่กันไปแหย่กันมาอยู่สักพัก
แหย่กันจนจะงอนอีกรอบ… แกล้งกันบ้าง แซวกันบ้าง… แต่ที่รู้ๆ ผมไม่ได้เป็นฝ่ายชิงหลับก่อน
เพราะผมแอบมองใบหน้าหวานตอนหลับอยู่สักพัก
เรื่องเมื่อเย็น บอกเลยว่าผมงอนจริง… อุตส่าห์นัดไว้แล้วว่าจะไปดูหนังด้วยกันแต่ริทมันก็ผิดสัญญา
แต่บอกตามตรง… ระหว่างไปเที่ยวไปดูหนังกับการที่ให้มันมา
‘ง้อ’ แบบนี้ ผมเลือกอย่างหลังดีกว่า
คนตัวเล็กกระชับอ้อมกอดที่กอดผมอยู่ แล้วแอบยิ้มบางๆ
ตื่นแล้วยังมาแกล้งหลับอีก เดี๋ยวงอนอีกจะรู้สึก
“พี่ยังไม่หายโกรธนะ…”
ผมกระซิบข้างหูเล็กแล้วกัดเบาๆ
ไอ้ตัวดีเบิกตาโพลงเลยพอผมพูดแบบนี้…
“ริทเหนื่อย…”
“…อีกนิดนะ”
ก็เล่นมานอนเปลือยเนื้อแนบเนื้อกับผมอยู่แบบนี้
แถมยังขยับเข้ามาใกล้อีก จะให้ผมทนได้ยังไง
คนตัวเล็กคลานขึ้นมานอนบนตัวผม
ก่อนจะเอามือมาประคองหน้าผมไว้แล้วมอบจูบหวานล้ำให้… มันเอียงหน้าตัวเองให้ได้องศาพอเหมาะแล้วสอดลิ้นเข้ามาหลอกล่อผม…
มีเหรอที่ผมจะปล่อยให้หลุดลอย
รีบเป็นฝ่ายกวาดต้อนความหวานในปากเขาแทนทันที เรื่องอื่นให้มันทำได้
แต่เรื่องจูบนี่ผมไม่ยอมนะ
พอมันถอนจูบออก ผมก็เห็นริมฝีปากอวบอิ่มที่ขึ้นสีแดงเจ่อ… ยิ่งดูเซ็กซี่ไปกันใหญ่เลยทีนี้
ตอนแรกมันนั่งอยู่บนหน้าท้องผม
ตอนนี้มันค่อยๆเลื่อนลงไปนั่งข้างล่างตามหน้าที่ มันยกตัวขึ้นนิดๆ
แล้วค่อยๆกลืนกินของผมไปช้าๆ มันกัดริมฝีปากของตัวเองนิดๆ ยิ่งทำให้ผมแทบคลั่ง
ยังเข้าไปไม่สุดผมก็แทบจะระเบิดออกมา
สะโพกเล็กโยกขึ้นลงสองสามทีส่วนอ่อนไหวของมันก็ปลดปล่อยน้ำขุ่นขาวออกมาเลอะหน้าท้องผม…
หน้ามันขึ้นสีแดงอ่อนๆ ก่อนจะเริ่มขยับอีกเพื่อช่วยผมให้ได้ปลดปล่อย
เสียงครางหวานๆของมันยิ่งทำให้ในท้องผมปั่นป่วน
เสียงมันร้องเรียกชื่อเราเวลาที่มันกระแทกตัวเองลงมาทำให้ผมแทบอดใจไม่ไหว
“อื๊อ พี่โน่ ริท…อ่า…รั…กพี่นะ อ๊ะ อื้อ…”
“อื้อ…อ่า”
กว่าจะแตะขอบสวรรค์กันอีกรอบก็เล่นเหงื่อออกทั่วกาย..
ริททรุดนอนลงบนตัวผม หายใจหอบถี่ อกเล็กกระเพื่อมขึ้นลง..
ผมดันตัวมันนอนลงบนเตียงแล้วเป็นฝ่ายขึ้นไปคร่อมมันไว้บ้าง
“ผ่านมาครึ่งทางแล้วนะครับ…ที่รัก”.
————————————————————————
คิดถึงเค้ามั้ย ฮือ
เค้าคิดถึงการแต่งฟิคหื่นๆมาก นี่พูดเลย ไม่มีใครอ่านไม่เป็นไรนะ เค้าอยากแต่ง
เค้าเก็บกด ใครอ่านก็อ่านไป ใครไม่ชอบ ใครรับไม่ได้แล้วก็ขอโทษด้วย
ตัวละครยังเหมือนเดิมนะ… ชีวิตจริงช่างมันเต๊อะ
เราชอบฟิคที่มีริทเป็นตัวเอก
แต่พระเอกเราก็เปลี่ยนเป็นคนอื่นไม่ได้จริงๆ เรายืมอิมเมจกับชื่อเขามานะ 5555555555
เราโกรธพี่โน่นะ
แต่ไม่ได้เกลียด .. งอนไปเรื่อยๆ จนกว่าทุกอย่างจะโอเค นะ…
ใครที่เข้ามาอ่าน..
แล้วเล่นทวิต ถ้ารู้สึกกับพี่โน่ไม่เหมือนเดิมก็เลิกดราม่านะ ถ้าแซะก็แซะฮาๆ ไม่ได้เจ็บคนเดียวนะ
คนที่อ่านข้อความพวกนั้นแล้วเป็นแฟนคลับเขาก็เจ็บ
#เวิ่นไรเนี่ย
#อ่านแล้วไม่เข้าใจตัวเอง #ไปละ
P.S.ถ้าต้องการให้เราแจ้งว่าอัพตอนใหม่แบบนี้
กลับไปเม้นที่ dek-d นะ ไม่ค่อยอยากอัพใน dek-d- เท่าไหร่ คำหยาบไม่ได้ NC ไม่ได้
เข้ามาอ่านในนี้เนอะ ถ้าหาลิงค์ไม่เจอก็ที่ bio twitter @FaiKra1 นะ
อิอิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น