วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Together tonight





Rate : 18+
**เป็นเพียงฟิคชั่นเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตจริง โปรดใช้วิจารณญาณและจิตใจของชิปเปอร์ในการอ่าน(อย่างมีสติ)**

ถ้าจะแชร์ต่อ งดรีทวิต กรุณาส่งให้กันผ่านทางแชทส่วนตัว
ขอบคุณค่าาา
#togethertonightNR












                 หลังเวทีกำลังวุ่นวาย เมื่อคอสตูมหญิงหาชุดที่ใช้ในการแสดงที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในหกชั่วโมงไม่เจอ.. เป็นเพราะความรอบคอบของทีมงานที่ต้องเช็คของก่อนแสดงทุกรอบเพื่อที่ถ้าเกิดปัญหาอะไรจะได้แก้ทันท่วงที เธอถามทีมงานเกือบทุกคนว่ามีใครเห็นชุดดังกล่าวบ้างไหม คำตอบที่ได้คือการส่ายหน้าไปมา…




        เธอจำได้ว่าเมื่อวานหลังการแสดงชุดนั้นจบ ศิลปินก็เข้ามาเปลี่ยนชุดในห้องแต่งตัว และเธอก็เป็นคนเอาชุดพวกนั้นมาแขวนไว้ที่ราวเดิมเองกับมือ ไม่มีทางที่มันจะหายไปเด็ดขาดนอกจากจะมีคนหยิบไป… ทั้งที่ชุดนั้นไม่ได้มีราคาแพงอะไร มันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ดังนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปขอดูกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวคนผิด นาทีนั้นเธอคิดอย่างเดียวว่าติดต่อไปทางร้านที่ตัดชุดให้จะดีกว่า เพื่อที่จะได้มีชุดใหม่มาทันก่อนคอนเสิร์ตนี้จะเริ่มขึ้นอีกรอบ




        “ขอโทษจริงๆ นะคะน้องริท พี่สะเพร่าเอง”




        เธอขอโทษศิลปินที่จะต้องใส่ชุดที่หายไปนั้นอีกรอบ… ร่างบางเลยได้แต่ยิ้มให้แล้วบอกว่าไม่เป็นอะไร เพราะรู้ว่าคนผิดไม่ใช่คอสตูมคนนี้แต่เป็นไอ้ผู้ชายที่กำลังยักคิ้วให้เขาต่างหาก..




        ผู้ชายที่ทำให้ชุดนั้นกลายเป็นเพียงเศษผ้าที่ขาดหลุดรุ่ย…




        ผู้ชายที่ร้ายกาจจนเรืองฤทธิ์ไม่สามารถต้านทานได้…




        “อะไรหายเหรอครับพี่” เขาถาม..ทำหน้าตาใสซื่อไร้พิรุธใดๆ




        “ชุดวันเดอร์เกย์ของน้องริทค่ะ หายไปได้ยังไงก็ไม่รู้ พี่จำได้ว่าแขวนรวมๆ ไว้ตรงนั้น มีป้ายชื่อชัดเจน...”




        “แย่จังครับ แล้วทำไงครับเนี่ย”




        “หายห่วงค่ะ พี่โทรสั่งที่ร้านเรียบร้อยแล้ว ทันโชว์คืนนี้แน่ ดีนะที่เป็นโชว์ท้ายๆ ไม่งั้นพี่โดนพี่จิ๊บเฉ่งหัวต่อหน้าทุกคน..”





        ขณะที่คอสตูมวัยสี่สิบกว่าอธิบาย เบื้องหลังของเธอเรืองฤทธิ์กำลังทำปากมุบมิบจ้องร่างสูงเขม็ง.. ถ้าบอกความจริงกับเธอไปว่าคนที่เอาชุดไปอยู่ตรงหน้าเธอ คำถามที่ตามมาคงไม่พ้น ‘น้องโตโน่จะเอาไปทำไมคะ’ และสารพัดคำถามถัดๆมา… ที่อาจจะทำให้ทุกคนในที่นี้รับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน




        ร่างบางเดินไปเข้าห้องน้ำหลังจากกินขนมที่แฟนคลับเอามาให้โดยไม่ทันสังเกตว่ามีบางคนเดินตามมา ธุระส่วนตัวในห้องน้ำกลายเป็นไม่ส่วนตัวเมื่อร่างสูงของภาคินแทรกตัวเข้าไปอยู่ในห้องน้ำด้วย ทั้งที่ร่างบางขัดขืนจนสุดกำลัง.. แต่ยังไงก็สู้ผู้ชายคนนี้ไม่เคยได้ แถมยังเสียเปรียบอยู่ร่ำไป..




        “พอได้แล้ว..” มือเล็กผลักอกแกร่งออกห่างจากตัว ช้อนตามองอย่างคาดโทษ หลังจากที่โดนปล้ำจูบและไซ้ซอกคออยู่สักพัก..




        “คนทำชุดพังต้องโดนลงโทษ”




        “พี่นั่นแหละทำพัง พังตั้งแต่แอบหยิบออกไปไม่ต่างจากขโมย.. แล้วยังกระชากจนมันขาดออกเป็นส่วนๆ”




        “โทษพี่คนเดียวไม่ได้นะ.. ถ้าริทรู้จักปฏิเสธ ป่านนี้ชุดนั้นก็แขวนอยู่ที่เดิม”




        “ตกลงผิดที่ริท? ..ผิดที่ความโรคจิตของพี่โน่มากกว่า! ที่ยอมทำก็เพราะรัก..แต่พี่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน..”




        คนตัวเล็กถอนหายใจ.. เบือนหน้าหนี.. จนร่างสูงต้องดึงมากอดไว้




        “มันก็ยังไม่เดือดร้อนสักหน่อย”




        “พี่โน่!”




        ย้อนกลับไปเมื่อวานหลังจากคอนเสิร์ตจบ.. ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านกลับคอนโดของตัวเอง ต่างกับผู้ชายสองคนที่ขับรถคนละคันออกไปจากฮอลล์แต่กลับมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง.. เหตุที่กลับไปนอนที่คอนโดคนใดคนหนึ่งไม่ได้เพราะต่างฝ่ายต่างมีบุพการีมาอยู่ด้วย ครั้นจะพาไปที่ใดที่นึงก็เกรงใจ..




        ทุกอย่างรัดกุมเพราะไม่ต้องการให้ใครรู้.. กดลิฟต์คนละชั้นแล้วใช้บันไดไปยังชั้นที่ต้องการ..เพื่อป้องกันคนหูไวตาไวแถวๆนี้..




        กว่าจะเจอกันในห้องก็เล่นเอาหอบไม่เป็นท่า.. แทนที่จะได้นั่งพักก่อนทำอะไรอย่างอื่น ร่างบางกลับถูกฉุดเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายด้วยกัน.. ถึงห้องน้ำจะกว้างสักเพียงใด คนสองคนกลับยืนเบียดชิดแนบสนิท อาบน้ำให้กันและกันจนร่างกายเกือบแนบกันทุกส่วน




        “พี่เตรียมอะไรสนุกๆ ไว้ข้างนอกด้วย” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู ขณะที่ลูบไล้แผ่นอกของคนตัวเล็กกว่าไปพรางๆ มือใหญ่ปัดป่ายไปมาแกล้งให้ร่างบางขนลุกชูชัน..




        “อะไร”




        “เดี๋ยวก็รู้..”




        ภาคินทำหน้าเจ้าเล่ห์.. จนเรืองฤทธิ์เริ่มหวั่นใจ อะไรที่ว่ามันคงสนุกมากเสียจนคนมักมากอย่างภาคินไม่รีบทำอะไรเขาตั้งแต่ในห้องน้ำ กลับอดเปรี้ยวไว้กินหวานโดยการเดินออกไปก่อน.. ปล่อยให้ร่างบางอาบน้ำต่อจนร่างกายสะอาดหมดจด




        “ทำไมทำอย่างนี้!”



       
        ร่างบางในชุดคลุมอาบน้ำตะลึงกับสิ่งของที่วางอยู่บนเตียง.. ทั้งวิกผม ทั้งชุดผู้หญิงที่ใส่ในการแสดงที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่ชั่วโมง แค่มองก็รู้ทันทีว่าผู้ชายตรงหน้าต้องการอะไร..แต่ที่โมโหกว่าสิ่งอื่นใดคือกล้าเอาชุดนี้ออกมาจากงานได้ยังไง เพราะรอบต่อไปก็ต้องใช้ในการแสดง




        “พี่เกือบอดใจไม่ไหวตั้งแต่ก่อนแสดง..”




        “..”




        “เดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยเอาไปคืนในสภาพสมบูรณ์ทุกอย่าง...”




        มาถึงขั้นนี้แล้ว เรืองฤทธิ์ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง ในเมื่อจุดหมายปลายทางในคืนนี้ก็คือเป็นของกันและกันอยู่ดี.. เลยยอมหยิบทุกอย่างไปใส่ในห้องน้ำ โดยมีคนบงการทุกอย่างรออยู่ด้านนอก.. คนตัวเล็กใส่ชุดอย่างทุลักทุเลเพราะไม่เคยใส่ด้วยตัวเองสักครั้ง ปกติจะมีทีมงานมาช่วยดึงเชือกข้างหลังและช่วยเย็บให้แน่น แต่ตอนนี้มีเพียงสองมือของตัวเอง




        “สวยจังค่ะ..”




        คำชมคำแรกจากปากของคนที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ..เขามองร่างบางที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้ว่าไม่มีเครื่องสำอางบนใบหน้าก็ไม่ได้ทำให้ความน่ารักลดลงแม้แต่น้อย




        “วิกจะหลุด..” ร่างบางพูดเรื่องอื่นกลบเกลื่อนอาการเขิน..




        “น้องริชชี่มานั่งนี่ค่ะ..เดี๋ยวป๋าจะทิปให้หนักๆ”




        “โรคจิตว่ะ” ปากบ่นแต่ก็ยอมไปนั่งข้างๆ บนเตียงกว้าง..




        “ไม่นั่งตรงนั้นสิคะ...มานั่งตรงนี้” เขาชี้ไปที่ตัก.. จังหวะที่ร่างบางอิดออด มือหนาก็ปลดเสื้อคลุมอาบน้ำของตัวเองจนเชือกหลุด เขากลายเป็นไอ้แก่โรคจิตเกือบเต็มรูปแบบ เหลือแค่เพียงมีอะไรกับน้องริชชี่คนสวย..




        “ขอบคุณนะคะที่ยอมทำเพื่อพี่ขนาดนี้” เมื่อท่าทางทุกอย่างลงตัว เด็กน้อยนั่งคร่อมอยู่ตักหันหน้าเข้าหา..สายตาประสาน มือหนาจับปอย(วิก)ผมขึ้นทัดหูให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจมูกโด่งจจะเริ่มไล้ตั้งแต่หน้าผากจนมาหยุดที่ริมฝีปากสวย




        เขาง้างงับอย่างไม่รอช้า กลืนกินริมฝีปากบนล่างสลับกันจนคนบนตักอ่อนระทวย.. ยอมเปิดปากให้ลิ้นร้อนเข้าไปดูดดื่มกับความหวานภายใน.. มือเล็กค่อยๆ ดันคนอายุมากกว่าลงนอนราบไปกับเตียงโดยมีตัวเองตามไปคร่อมไว้แล้วเป็นฝ่ายควบคุบการจูบเองทั้งหมด แถมยังจับมือหนาที่กำลังจะปลดชุดรุงรังนี้ออกให้ไปวางบนสะโพกกลมมนแทน..




        เนื้อนิ่มที่ไม่มีอะไรปิดกั้นเสียดสีไปมากับด้านหน้าของร่างสูง..แถมยังโดนมือร้ายบีบคลึงสะโพกจนขึ้นแดงเป็นรอยมือ




        “อื้มมมมอย่าใจร้อน..” ยังเล้าโลมกันไปถึงไหน คนมือไวก็ส่งนิ้วไปตามร่องสะโพก..จนร่างบางห้ามไว้แทบไม่ทัน




        ‘น้องริชชี่’ ร้อนแรงยิ่งกว่าใคร.. ปรนเปรอให้คนใต้ร่างตั้งแต่หัวจรดหว่างขา.. รื้อฟื้นทุกอย่างที่อีกฝ่ายเคยสอนให้ แล้วนำมาปฏิบัติตาม แถมยังเก็บรายละเอียดทุกเม็ด.. โดยเฉพาะบริเวณแผ่นอกแกร่งลงมาเรื่อยๆจนถึงส่วนที่ยังขยายไม่เต็มที่..




        เจ้าของมันใช้สองแขนยันตัวขึ้นมาดู.. ทุกจังหวะที่ปากเล็กครอบลงไปจะมองมาที่เขาเสมอ พอมันโตเต็มที่จนคับปากเล็กเขาก็รู้สึกได้ถึงความทรมานของคนสวยตรงหน้า.. แต่เขาก็เผลอขยับเอวสวนขึ้นไปตามแรงอารมณ์อยู่บ่อยครั้ง




        “ไม่ต้องเลีย” พอร่างบางจะแลบลิ้นชิมส่วนปลายก็ถูกห้ามในทันที.. เพราะเขาไม่อยากแสดงความอ่อนด้อยโดยการเสร็จทั้งที่ยังไม่ได้แทรกกายเข้าไปในตัวน้องริชชี่คนสวย




        “เข้ามาเลยก็ได้” เพราะรู้ว่าจะถูกปรนเปรอคืนบ้าง ร่างบางเลยปฏิเสธเพราะตอนนี้ตัวเองก็รู้สึกมากพอที่จะยอมให้อีกฝ่ายตักตวงความสุขไปจากตัว.. เจลหล่อลื่นที่อยู่ใกล้มือถูกหยิบมาใช้โดยร่างสูงที่กำลังจดจ่ออยู่กับความสุขตรงหน้า..




        มือหนาถกส่วนที่ปิดปังร่างกายงดงามของร่างบางให้ขึ้นไปกองอยู่บนเอว ขยับตัวแนบชิด ก่อนจะค่อยๆ ฝังส่วนแข็งขืนเข้าไปในโพรงอ่อนนุ่มที่ต้อนรับเขาด้วยการรัดแน่นตั้งแต่ปากทาง..




        “ผ่อนคลายหน่อยสิคะ” เขาจับแกนกายขนาดพอดีมือของคนใต้ร่างแล้วรูดขึ้นลงอย่างเบามือ..เพื่อที่ช่องทางด้านหลังจะได้ไม่เคร่งเครียดเกินไป กว่าจะเข้าไปได้ทั้งหมดคนตัวเล็กเกือบเสียน้ำตา.. กายแกร่งเลยแช่ไว้อย่างนั้นจนมือเลกที่จิกบนต้นแขนเขาอยู่คลายลง จึงเริ่มขยับกายเข้าออกช้าๆ




        “อ่าาา..” ภายในบีบรัดทุกจังหวะ สองกายกอดก่ายกันแน่น ก่อนที่ขาเล็กจะถูกจับพาดบ่าแล้วเพิ่มจังหวะในการร่วมรัก.. กายหนาขยับเข้าออกอย่างถี่รัว ยิ่งเขาเห็นใบหน้าแสนเร้าอารมณ์ของคนที่นอนราบ เขายิ่งมีแรงที่จะทำให้ความรู้สึกนั้นพุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ




        ร่างสูงถอนกายออกจากช่องทางรักอย่างรวดเร็ว จนเกิดเสียงบีบรัดของช่องทางสวย.. ความรู้สึกที่ยังคงอยู่กับให้ช่องทางนั้นขมิบเข้าหากันเรื่อยๆ .. ภาคินกำลังหน้ามืดตามัว จับร่างบางพลิกคว่ำแล้วดึงสะโพกให้ลอยเด่น ถกกระโปรงสีสวยที่ปิดบังความงดงามนั้นอีกครั้งแล้วค่อยแทรกกายเข้าไปใหม่




        คราวนี้เขาขยับกายรุนแรงกว่าเดิม มอบรักให้คนใต้ร่างอย่างบ้าคลั่ง..กระแทกทุกจุดภายในจนอีกฝ่ายกรีดร้องออกมารอบแล้วรอบเล่า




        “อ๊ะ..อื๊ออออ..”




        “ดีไหมคะ..อึก..อ่า”




        ร่างบางไปตอบอะไร หน้าถูไถไปกับหมอ มือน้อยกำผ้าปูที่นอนแน่น.. เพราะทุกการขยับร่างของคนข้างหลังนั้นตอกลึกจนแทบทรงตัวไม่อยู่




        “ข..ข้างนอก..”




        พอรู้ว่าใกล้จะถึงฝั่ง.. ร่างเล็กถึงพยายามออกปากสั่ง..เพราะไม่ชอบให้อีกฝ่ายปล่อยเข้ามาข้างในเพราะมันจะทำความสะอาดยาก และถ้าหากมีรอบต่อไป น้ำข้างในก็จะเฉอะแฉะส่งเสียงน่าอายออกมา..




        “พะ พี่โน่...ข้าง..นอก..อ๊ะ..”




        แต่มือแกร่งกับรั้งสะโพกเข้าหาตัวในจังหวะที่จะปลดปล่อย ทำให้ธารน้ำสีขาวขุ่นเข้าไปถึงข้างในสุด.. ตรงข้ามกับสิ่งที่ร่างบางต้องการอย่างสิ้นเชิง.. สองร่างกระตุกเกร็งพร้อมกันแต่คนที่เพิ่งรู้ว่าถูกขัดคำสั่งถึงกับหน้าถอดสี




        “พี่กลัวมันเลอะชุด..”




        กำลังจะอ้าปากด่า คนเจ้าเล่ห์มันก็เตรียมคำตอบไว้เรียบร้อยทำให้ด่าอะไรไม่ได้..




        ปากสวยเลยโดนจูบอย่างอ่อนโยนแทน..




        รอบแล้วรอบเล่า.. ครั้งแล้วครั้งเล่า.. ความเมามัวในรสชาติของกามารมณ์มันทำให้ลืมตัวว่าทำอะไรลงไปบ้าง..




        พอตื่นมาเห็นว่าชุดมันขาดหลุดรุ่ย เพราะมึคนกระชากเมื่อคืนก็ทำให้ร่างบางช็อคจนทรงตัวไม่อยู่..




        สุดท้ายได้แค่คำขอโทษ กับคำกล่าวของคนทำว่า...



       
        ‘คราวหน้าน้องริชชี่ใส่ชุดเมดแทนนะครับ’















วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ถ้าหากผมย้อนเวลากลับไปได้ : เดทแรกของเราต้องดีกว่านี้

"ก็ทำความรู้จักกันบนเตียง แบบทุกซอก..." เลื่อนหน้าเข้าไปแนบชิดจนริมฝีปากเราแตะกัน "และทุกมุม"
  
            บดขยี้ริมฝีปากบนริมฝีปากอิ่มสวย กอดจูบลูบไล้ไปทั้งตัว ริทก็ใช่ว่าจะไม่รู้ประสาเสียเมื่อไหร่ โตมาขนาดนี้แล้วภาคทฤษฎีมันก็ต้องมีบ้างล่ะแหม่ ส่วนภาคปฏิบัติเดี๋ยวผมสอนจนชำนาญแหละ ไม่ต้องห่วง
  
            เสื้อผ้าพอถอดได้ผมก็โยนไปคนละทิศคนละทาง พอเนื้อตัวเปลือยเปล่าเราก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนเหมือนงูกำลังพันกัน
  
            "แฮ่ก..."
  
            "จะพลิกขึ้นมาอีกมั้ย!" ไอ้นี่...ชอบอยู่ข้างบน พยายามพลิกให้ผมอยู่ข้างล่างตลอดเวลา
  
            "งื้อออ ฮ่าๆๆ อ๊าาา อย่าาา ฮ่าๆๆๆ" แกล้งมันด้วยการไซ้คอ เจ้าตัวหัวเราะแทบขาดใจ
  
            "จะทำอีกมั้ย!"
  
            "ไม่ๆ ทำ ฮ่าๆๆ อื้ออออ"
  
            "ถ้ากูจะให้มึงอยู่ข้างบน...เดี๋ยวจะบอก" พูดเสียงพร่า เริ่มควานหาอุปกรณ์สำคัญพวกเจล พวกคอนด้อม ริทนอนเฉย มองผมตาแป๋วว่าจะทำอะไรต่อ ยั่วกูเหรอ มึงยั่วกูเหรอริท...
  
            "อ๊ะ" ปลายนิ้วชโลม KY สอดใส่เข้าไปในช่องทางลับเพื่อเบิกทาง ข้างในอุ่นร้อน แถมยังคับแน่นตอดรัดนิ้วผมแทบบ้า เจ้าของมันนอนตัวเกร็งทำให้ความรู้สึกทุกอย่างเหมือนมารวมอยู่จุดที่ผมกำลังขยับนิ้วนี่ทั้งหมด
  
            ผมเพิ่มเจลเข้าไปอีก อย่างน้อยก็ช่วยดับความร้อนรุ่มข้างใน เวลาอะไรที่ใหญ่กว่าเข้าไปจะได้รู้สึกสบายกว่าปกติ ไอ้ตัวแสบนอนบิดเร่าๆ สะดุ้งกับจุดที่ผมพยายามกระทุ้งนิ้วเข้าไป พร้อมกับครางเสียงหวานอย่างไม่ปิดบัง
  
            "อึก อื๊อ อ๊ะ ต..ตรงนั้น มะไม่ พี่โ...น่ หยะ อย่าาา งื้อออ อ๊าา" ได้ยินมันผมล่ะเสียวแทน แล้วผมก็เพิ่มนิ้วเข้าไปเรื่อยๆ ขยายช่องทางคับแคบตามสเตปกามสูตรที่เคยเล่าเรียนมา
  
            ริทร้องลั่น หัวเล็กขยับอยู่บนหมอน น้ำตาไหลจากดวงตาคู่สวย
  
            ผมเพิ่งเข้าใจ คำว่าเสียวจนน้ำตาไหลเป็นแบบนี้นี่เอง...
  
            ป้องกันการบาดเจ็บอีกครั้งด้วยคอนด้อม เพราะจะเสียบสดก็เกรงใจกลัวเด็กมันใจแตกเพราะทนลีลาเราแบบเปลือยเปล่าไม่ไหว ข้างล่างพร้อมแล้วผมเลยไปจูบปากอิ่มอีกครั้ง กลืนกินทั้งปากบนปากล่าง ใช้ลิ้นเปิดปากมันให้ลิ้นเราเข้าไปกวาดต้อนข้างใน

            "ฮ้าาาาา" น้ำลายเราผสมปนกันไปหมด ลิ้นก็โรมรันพันตูจนไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร อาศัยจังหวะเพลินๆ คว้ามือเล็กมาสัมผัสแท่งร้อนภายใต้ปลอก ไอ้ตัวดีมือสั่นคงเพราะไม่เคยจับของคนอื่น แถมมันยังแทบรูดคอนด้อมหลุด
  
            "อยากได้หรือเปล่า"
  
            "อ...อะไร ขนาดแบบนี้เหรอ"
  
            "ถุยยย"
  
            ยังมีอารมณ์มาตลก รู้ครับว่าใหญ่มาก แต่ไม่ใช่เวลามาเล่นปะวะ
  
            ผมค่อยๆ ประคองมือเล็กให้เอามันไปจ่อที่ปากทางคับแคบ หลังจากนั้นมันก็ทิ้งมือลงข้างตัว จิกผ้าปูที่นอนแน่น พร้อมกับที่ผมค่อยๆ ขยับเข้าไปอย่างช้าๆ
  
            ขาที่พาดบ่าผมสั่นระริก เจ้าของมันก็นอนเม้มปากตัวเกร็งอยู่นั่น
  
            พอเข้าไปได้ข้างในสุด ผมก็ช้อนที่ข้อพับขา พอให้ผมโน้มตัวไปจูบกับริทได้ ไอ้คนที่รับตัวตนผมไปทั้งหมดยังคงเกร็ง ตอดรัดผมตลอดเวลา แน่นเป็นบ้าเลยว่ะ
  
            "อื๊อออ อย่าแกล้ง อ๊ะ..." ผมขยับเนิบนาบไม่เป็นจังหวะ สอดใส่เข้าออกจนคุ้นชิน
  
            "ริทครับ"
  
            "โอ๊ย ขนลุก อ...ย่าพะพูดแบบ...นี้ เฮือกกก" คงไปโดนจุดเร้าเข้าเต็ม ริทถึงสะท้านเฮือก ผมยิ่งได้ใจ กระทุ้งซ้ำๆ ตรงนั้นจนริทกรีดร้องไม่เป็นภาษา ผนังร้อนโอบรอบแท่งร้อนผม ตอดตุบๆ จนอยากจะสาวเอวเร็วๆ ให้มันเสร็จๆ
  
            "อ่าาา แน่น ริท...อย่าเกร็ง อื้อ อย่างนั้น...ใช่..."
  
            เน้นกระทบจุดอ่อนไหวมากกว่าการกระทุ้งแรงๆ เพราะแค่นี้ริทก็ตัวสั่น มือไม้ปัดป่ายพยายามผลักผมให้ห่างจากตัวแล้ว ทั้งที่ผมพยายามเสือกไสกายเข้าหาโพรงอ่อนนุ่มถี่ๆ
  
            "อ๊ะ อ๊า อ๊า งื้ออออ ช้าๆ พี่..." มือเรียวยกขึ้นมาปิดหน้า รู้สึกเหมือนทั้งร่างกำลังจะหลอมละลายเป็นหนึ่งเดียวกัน จังหวะเอวผมไม่เป็นรองใคร ทำริทครางเสียงกระเส่าอยู่หลายครั้ง ริทกอดคอผมไว้ ขยับตัวเข้าหาเพื่อแลกจูบตลอดเวลา
  
            "อ่า ตอดดีเป็นบ้าเลยว่ะ ริท..." คนใต้ร่างผมหน้าแดง ส่วนตัวก็สั่นเพราะถูกผมขยับแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
  
            "อึก ฮื้อออออ อ๊าาา" พอผมปล่อยให้ริมฝีปากมันเป็นอิสระ มันเลยอ้าปากร้องน้ำลายยืดติดกันมา น้ำตาก็ไหลสภาพน่ารังแกให้หนักกว่านี้ชิบหาย

            ผมเขี่ยยอดอกมันกระตุ้นความเสียวซ่าน เร่งจังหวะเอวแถมยังควงสว่านให้กระทบโพรงอ่อนนุ่มทุกมุม ริทร้องลั่นไม่หยุด ผมก็ขยับไม่หยุดเหมือนกัน จนมันปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้อง ช่องทางก็บีบรัดแท่งมหัศจรรย์ของผมจนแทบจะแตกในทันที
  
            "อึก อ่าาาาา" ผมปลดปล่อยออกมาในคอนด้อม ยังฝังตัวอยู่ในกายอุ่น น่าเสียดายที่ไม่ได้ทำแบบไร้ปลอก ไม่อยากนั้นผมคงเห็นภาพดีๆ ตอนดึงตัวเองออกมา
  
            ไอ้ตัวดีมองผมตาแป๋ว ซึ่งผมมองว่ามันน่าย่ำยีมาก ชอบคิดไปเองว่ามันยั่วผมทุกที...
  
            "เป็นไงล่ะ ลีลากู" ผมถาม
  
            "กากเดน" มันตอบทันควัน
  
            ผมเตรียมประทุษร้ายทันที ไอ้ริทเอามือปัดป้องเป็นพัลวัน ตอนนี้ผมทิ้งตัวนอนลงข้างๆ มันแล้ว ถอดคอนด้อมอันเก่าออก แต่สิ่งที่ไอ้คนข้างๆ ไม่รู้ก็คือผมเตรียมอันใหม่เรียบร้อย
  
            ความมือไวไว้ใจผม
  
            "ตอนแรกว่าจะดูหนัง กินข้าว แล้วพาไปส่งบ้าน เสือกมากวนตีนกูแบบนี้เลยต้องจัด" ดีที่เมื่อเช้าผมกินข้าวมาเยอะ แถมลูกชิ้นปิ้งอีกสองไม้ตอนสายๆ แรงผมยังเหลืออีกเยอะ ถ้าไม่ขาดน้ำตายเสียก่อน
            "ไม่ได้ตั้งใจจะพาเข้าม่านรูดอยู่แล้วเหรอ" มันเลิกคิ้วถาม ปากเล็กน่าบีบนั่นเบะน้อยๆอย่างน่าหมั่นไส้ "ริทเห็นพี่มองที่นี่ตั้งแต่ขาไป เดทก็แค่ข้ออ้าง อยากเคลมเราสิไม่ว่า"
  
            นี่ถ้าไม่ติดว่าชอบ(?)นะ กูถีบแม่งตกเตียงละ...
  
            ข้อหาที่รู้ทัน...
  
            "จะไปไหน!"
  
            "อะไรของพี่เนี่ย ริทจะไปอาบน้ำ" ตัวแสบตีหน้ายุ่งเมื่อถูกผมดึงรั้งไว้ ดึงอีท่าไหนไม่รู้มานั่งบนตักผมพอดี มันดิ้นน้อยๆ อย่างหวาดระแวง หลบหลีกปากผมที่พรมจูบไปทั่วท้ายทอยมัน มือของผมก็โอบเอวเล็กไว้ ลูบไล้หน้าท้องแบนราบเบาๆ ชวนสยิว
  
            ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองเครื่องติดง่ายมาก เผลอแป๊บเดียวแท่งร้อนก็ดุนดันบั้นเอวของคนบนตัก อาศัยช่วงที่ริทกำลังเคลิ้มค่อยๆ พามันหมุนตัวหันหน้ามาทางเรา เห็นตาปรอยๆ แล้วอยากทำให้ยับเยิน เลยสร้างรอยบนแผ่นอกมันเพิ่มอีกหลายรอย
  
            มันเผลอค่อยจับลูกผมยัดเข้าโพรงอ่อนนุ่มที่คงไม่ต้องเบิกทางอีกรอบ ล็อคเอวมันไว้แน่นๆ สอนมันขยับขึ้นลง ก่อนจะปล่อยให้ไอ้ตัวดีทำเอง
  
            "อ๊ะ" ท่านี้มันลึกกว่ามาก แถมเจ้าตัวยังเป็นฝ่ายทำเองไม่แปลกใจเลยที่จะร้องดังกว่าครั้งก่อน ความอ่อนนุ่มก็โอบล้อมผมไว้กระชับแน่นเหมือนเดิม ทว่าจังหวะมันไม่ค่อยทันใจนี่สิ
  
            เห็นหน้ามันเวลาตกอยู่ในห้วงของกามารมณ์ชัดๆ แล้วผมแทบทนไม่ไหว ใบหน้าเหยเกเหมือนจะร้องไห้ ผิวก็แดงไปตั้งตัว ร่างที่ขยับขึ้นลงสอดประสานก็เร้าอารมณ์ ไหนจะเสียงครางกระเส่าไม่เป็นภาษานั่นอีก
  
            "อ๊า อื๊ออออ พี่...พี่โน่ อ๊ะๆๆๆ ช้าๆ สะ...เสียว ฮืออออออออ" ผมรัวเอวใส่ตอนเริ่มทนไม่ไหว พอดีเป็นคนมีจังหวะในหัวใจ เรื่องแบบนี้เลยไม่เป็นรองใคร ยิ่งเจอคู่นอนที่ถูกใจ ไม่แปลกเลยที่ผมจะยอมให้มันเสร็จเร็วๆ เช่นนี้
  

            เราพากันแตะสวรรค์อีกรอบ โดยริทนั่งอยู่บนตักผมเป็นลูกลิง น้ำตาน้ำลายเยิ้มออกมาเพราะถูกผมจูบ แกล้งเด้งเอวใส่เขาอีกรอบ ไอ้ตัวดีด่ามาเป็นชุด


-------------------------------------------------------------
กลับเด็กดีนะจ๊ะ มีอีกนิดนุง

วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2559

Flower : ดอกสแตติส #26

-ต่อจากเด็กดี-
..
            “ปิดไฟ...ได้ไหมเหลือที่หัวเตียงนี่ก็พอ .. เขินจนอยากจะมุดดินหนีแล้ว ไหนจะสายตาตอนที่เขาเดินไปปิดไฟแล้วมองมาที่ผมที่นอนระทวยกึ่งเปลือยอยู่บนเตียงนั่นอีก..
            ก่อนก้าวขึ้นเตียงร่างสูงก็ถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้วค่อยขึ้นมาเอาแขนคร่อมผมไว้
            “ใครบอกนะ ว่าจะทำให้โดนทวงจนเสียเซลฟ์ ผมเลยต้องพลิกตัวให้ร่างสูงนอนราบลงกับเตียงแล้วเป็นฝ่ายนั่งคร่อมมันตัวเขาแทน เขาส่งความมั่นใจมาให้ด้วยรอยยิ้ม จนผมต้องกลั้นใจถอดเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายออกจากตัว
            “ไม่ดีอย่าว่ากันนะ
            “สัญญา...
            โยนทิ้งไปหมดสิ้นแล้วทั้งความกลัวและความอายที่เคยมี ตัวที่เคยสั่นเพราะกลัวตอนนี้กลับสั่นสู้อย่างไม่ยอมแพ้...
            นี่ก็นอนยิ้มอยู่ได้ เดี๋ยวจะทำให้ยิ้มไม่ออก
            ..
            “ซี้ดดด...ผมแค่ไปนั่งทับลงบนสิ่งที่มันเด้งใส่ผมมาตั้งแต่ข้างนอก แล้วขยับตัวขึ้นลงไปตามร่องแต่ยังไม่ได้สอดใส่ แค่นี้ร่างสูงก็ซี้ดปากร้องว่าเสียวไม่หยุด... ผมต้องยันมือไปข้างหลังวางไว้กับต้นขาแกร่งก่อนจะเริ่มกลั่นแกล้งเขาอีกครั้งด้วยการขยับแบบเดิม
            “อื้อ...ผมก็รู้สึกไม่แพ้กัน เม้มปากแล้วเม้มปากอีก อยากจะกลืนกินแท่งเนื้อนั่นให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็รู้ว่ายังไม่ถึงเวลา ที่เอาแต่ถูไถไปมานี่เพราะยังอยากแกล้งเขาอยู่...
            “ริท...จูบคินที...ผมก็ตามใจ โน้มตัวลงไปจูบ แต่ยังไม่วายแกล้งเขาด้วยการจับแท่งร้อนนั่นจ่อไปที่ช่องทางด้านหลังแล้วขยับไปมา...จนคินทำหน้าเหมือนจะร้องไห้...
            จูบจนปากเปื่อยแล้วผมค่อยย้ายร่างตัวเองไปอยู่ปลายเตียง มองคินด้วยสายตาหวานเยิ้มแบบที่คิดว่าเขาจะไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วค่อยๆโน้มตัวไปที่กลางลำตัวที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม จูบเบาๆไปเรื่อยๆตามไรขนอ่อนๆ ที่ยิ่งลงล่างมันยิ่งเยอะขึ้นกว่าเดิม
            แกนกายร้านผ่าวถูกผมรูดรั้งเบาๆ หลีกเลี่ยงการสบตากับคินเพราะผมกลัวว่าผมจะเขินจนทำต่อไม่ไหว... ก่อนจะครอบครองส่วนหนึ่งของแท่งนั้นด้วยริมฝีปากอย่างใจเย็น เสียงครางคำรามดังขึ้นอย่างพอใจยิ่งทำให้ผมมั่นใจที่จะทำ...
            ผมอมเท่าที่ทำให้ ตรงไหนที่ไม่ทั่วถึงผมก็ใช้ลิ้นเลีย ทุกการกระทำยังคงได้รับเสียงครางตลอดจนผมเริ่มสนุกกับมัน... ผมอมจนเมื่อยปาก จะให้ทำเหมือนกินไอติมก็ไม่ได้เพราะถ้าเป็นไอติมผมชอบกัดมากกว่าเลีย เลยได้แค่ใช้ลิ้นที่ชื้นไปด้วยน้ำลายแตะลงถี่ๆที่ส่วนปลายแดงเรื่อ แล้วใช้ปากครอบครองอีกครั้ง ก่อนจะรูดด้วยปากช้าๆ จนเพิ่มจังหวะขึ้นเรื่อยๆ...
            “อื้อ...ริท...แบบนั้น...อึก...มันเต็มปากผมไปหมดจนพูดอะไรไม่ได้ เห็นมือเขาจิกผ้าปูนี่นอนแน่น... ตอนที่เขาทำให้ผม ผมก็ยังอยู่ในสภาพนี้เหมือนกัน
            ..
            “อึก...ริท พอ...ปล่อย...เขาออกคำสั่ง ผมไม่อยากจะขัดใจเลยทำตามอย่างว่าง่าย...เขาไม่ยอมให้ผมอยู่ข้างบนอีกต่อไป ดันผมในนอนลงแทนที่แล้วจับขาผมทั้งสองข้างชันขึ้น...น้ำลายผมยังติดอยู่ที่มุมปาก คินก็ก้มลงมาจูบไม่ให้มันเลอะ
            เขาแทรกตัวลงตรงหว่างขาผม ส่งนิ้วแทรกเข้าไปในช่องทางด้านหลังเพื่อขยับขยายอย่างใจเย็น อกผมกระเพื่อมขึ้นลงเพราะหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมกำลังรุกล้ำเข้ามาในร่างกาย
            คินจูบแผ่วเบาไปทั่วแผ่นอกผม ก่อนจะตวัดลิ้นที่ยอดอกผมสองข้างอย่างชำนาญ จนผมสะดุ้งตัวหลายครั้ง...
            ร่างสูงผละจากร่างผมไป แล้วรูดรั้งแกนกายที่ร้อนผ่าวนั่นต่อหน้าผม ที่ตอนนี้มันขยายเต็มที่แถมยังชุ่มไปด้วยน้ำลายที่ผมทำไว้เมื่อสักครู่...เขาเอาแท่งร้อนนั่นไปจ่อกับช่องทางด้านหลังผมแล้วถูไปมาอย่างไม่รีบร้อน ก่อนจะค่อยๆ แทรกมันเข้ามาช้าๆ
            “อื้อ...
            “เจ็บไหม...
            เข้ามาจนสุด ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ถามผมว่าเจ็บไหม ผมคงได้แค่ตอบว่า...
            “ไม่...อึก...ต่อเถอะ
            จูบหน้าผากผมอย่างอ่อนโยน แล้วค่อยเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ แต่เน้นหนักในทุกสัมผัสทุกครั้งที่เข้ามา คินรู้ว่าตรงไหน...ยังไง...ที่ทำให้ผมมีความสุขได้
            “อ๊ะ...ตรงนั้น...อื๊อ...พอรู้จุดเขาก็เพิ่มจังหวะเร็วขึ้นจนเสียงเนื้อกระทบกันดังพั่บๆ หน้าผมคงเหยเกจนน่าเกลียดมากแน่ๆ เห็นคินยิ้มแล้วโน้มตัวมาอีกครั้ง จูบไปทั่วไปหน้าก่อนจะมาหยุดที่ริมฝีปาก เราจูบกันไม่รู้กี่รอบแต่ไม่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อเลยสักครั้ง
            คินขยับเข้าออกในตัวผมถี่ขึ้นเรื่อยๆ มีเสียงครางของเราทั้งคู่ดังขึ้นสอดประสาน
            "อื้อ...ริทไม่ไหวแล้วคิน..."
            "อีกนิดนะ...อ๊ะๆ อื้อ..."
           ผมเสียวจนกัดปากตัวเองแน่น จนคินต้องกอดผมไว้แล้วบอกให้กัดไหล่เขาแทน ผมเลยทั้งกัด ทั้งข่วนหลังเขา แต่ทำยังไงได้...ผมไม่มีที่ระบายแล้วจริงๆ
            "เสียว...ซี้ดดดด...คิน...อื้อ เร็วอีก...อึก อ๊ะๆ"
            "อื้อ..."
            ผมจะบ้าตายอยู่แล้ว ช่วงล่างเกร็งไปหมดก่อนที่ผมจะกระตุกตัวปล่อยน้ำสีขาวออกมาเต็มหน้าท้อง ส่วนคินเขายังขยับไม่หยุด เหงื่อหยดใส่ผมบ้างก็มี... ตอนนี้ผมก็นอนอยู่ในท่าเดิมแต่คินไม่ได้กอดผมแล้ว เขากำลังขยับเข้าออกในร่างกายผมตามที่ใจเขาต้องการ
            จังหวะสุดท้ายที่ผมเกร็งตัว เขาก็ปล่อยธารน้ำอุ่นๆ เข้ามาในตัวผม กระตุกเกร็งอีกสองทีก็ปล่อยทุกหยาดหยด แล้วค่อยดึงกายแกร่งออก ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้าง แถมยังดึงผมเข้าไปกอด

            ตัวเราทั้งคู่เต็มไปด้วยเหงื่อจากกิจกรรมที่เพิ่งผ่านมา แต่ก็ไม่มีแรงพอที่จะไปอาบน้ำ เลยนอนกอดกันอยู่สักพัก ก่อนที่เขาจะเริ่มนัวเนียผมอีกรอบ ผมส่งเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจเพราะใกล้จะเคลิ้มหลับ...


-มีต่อในเด็กดีนะ-

วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Flower : ดอกไลแล็ก โพลีแอนธัส #20

ดอกไลแล็ก โพลีแอนธัส : ความเชื่อมั่น

            ความรู้สึกแปลกๆบวกกับการปวดเมื่อยไปทั่วร่างกายเหมือนมีคนมานอนทับไว้ ทำให้ผมได้สติหลังจากที่เพิ่งนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมง กลิ่นเบียร์ที่มันชัดเจนเหมือนผมดื่มเสียเองกับความชาดิกช่วงล่าง สติที่ยังพอมีหลงเหลืออยู่สัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวที่กำลังหลั่งรินเข้ามาภายใน แรงอารมณ์พุ่งสูงจนผมผวาตื่นแต่ตายังลืมไม่ได้เพราะความอ่อนเพลียจัด
            บางอย่างที่เต็มแน่นในร่างถูกถอนออก เหลือไว้แต่เพียงความว่างเปล่ากับอะไรบางอย่างที่ไหลไปตามง่ามขา เงาดำที่เคยอยู่เหนือร่างเริ่มหายไป ก่อนที่ผมจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสนุ่มนวลครอบครองความต้องการในตอนเช้าตรู่
            ปลายลิ้นชื้นโลมเลียแผ่วเบา จนผมต้องบิดตัวด้วยความเสียวซ่าน จิกปลายนิ้วลงกับผ้าปูที่นอนก่อนจะเปลี่ยนเป็นโอบรอบต้นคอแกร่งแล้วค่อยขยุ้มเรือนผมของบุคคลปริศนา
            ร่างกายผมเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง แค่พยายามจะฝืนลืมตาก็ยังทำไม่ได้ หนำซ้ำยังมีมือหนามาปิดตาไว้คล้ายจะแกล้งให้ผมขาดใจตาย ผมอยากจะแน่ใจว่าคนที่กำลังทำมิดีมิร้ายผมอยู่เป็นคนที่ผมรัก ไม่ใช่ใครคนอื่นที่ลักหลับผม
            บางอย่างที่แข็งแกร่งดุนดันแถวสะโพก ขาผมที่ถูกจับแยกกว้างไว้ตั้งแต่แรกพยายามหนีบเข้าหากัน แต่ก็ไม่ทันกับบางอย่างที่ล่วงล้ำเข้ามาในร่างกายผม
            เงาดำที่ถูกบดบังด้วยเปลือกตาอันหนักอึ้งเลื่อนตัวขึ้นมา ก่อนจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปาก จูบแบบนี้กลิ่นเบียร์ที่ยังชัดเจนแบบนี้ไม่ต้องเดาแล้วว่าใคร ลิ้นเรียวกระวัดพันเกี่ยวไปมาในปาก ช่วงล่างก็ขยับเข้าออกตามจังหวะ ผมครางในลำคออยู่นานมากเพราะร่างสูงจูบไม่ปล่อย
            “คิน...
            พอลืมตาได้เห็นเจ้าของชื่อที่ผมเรียกกำลังจ้องหน้าผมอยู่ ยังไม่ทันจะได้เดาความรู้สึกจากสายตา เขาก็ใช้ภาษากายสั่งผมให้นอนคว่ำ ผมทำตามอย่าว่าง่ายแต่ก็ดูไม่ทันใจสักเท่าไหร่ แรงก็ไม่ค่อยจะมี ยันตัวเองจากที่นอนยังไม่ไหวเลย
            คินจับเอวผมดึงสะโพกให้ยกสูง แล้วสอดกายเข้ามาอย่างใจร้อนจนผมต้องขยำผ้าปูแน่น ถ้าไม่มีมือคินจับเอวไว้ เข่าผมคงทรุดลงมาแน่...
            “อื้อ คิน ริทเจ็บ...” แรงที่ส่งมามันหนักไปเกินกว่าที่ผมจะรับไหว คินไม่ฟังผมสักนิด เร่งจังหวะเร็วขึ้นกว่าเดิมจนผมที่อารมณ์ค้างจากรอบเมื่อกี้ปล่อยออกมาก่อน ผมนอนนิ่ง หลับตา ได้ยินแต่เสียงครางพึงพอใจของร่างสูงที่ยังคงเข้าออกในตัวผมไม่หยุด
            ไม่รู้ไม่เอาแรงมาจากไหน ดื่มไปตั้งเยอะ ไม่แฮงค์เลยหรือไง...ไม่รู้ว่าตอนที่ผมหลับ แอบทำไปกี่รอบแล้ว ผมก็เป็นพวกหลับลึกเสียด้วยสิ
            “ริท...อื้อ...ริท...
            “...” โอ๊ย ผมเขินนะ พอไม่ได้มีอารมณ์ร่วมแล้ว เหมือนต้องนอนรอ เหมือนต้องนอนดูคนมีอะไรกัน แต่ความรู้สึกที่กำลังเติมเต็มยิ่งทำให้ผมหน้าแดงเข้าไปใหญ่
            “ร...รักคินมั้ยริท รักมั้ย
            “ร...รัก” เสียงตอนถามเหมือนว่าถ้าผมไม่ตอบ คินจะขาดใจตายไปตรงนั้น แรงสุดท้ายถูกส่งมาพร้อมกับเสียงคราง ของเหลวอุ่นร้อนก็ถูกฉีดเข้ามา ความอุ่นของมันทำให้ผมร้อนไปทั้งร่าง
            ร่างหนักทิ้งตัวลงทับร่างผมไว้ กอดก่ายทั้งที่ส่วนนั้นยังเชื่อมกันแนบสนิท ผมกัดปากแน่นเมื่อคินหอมแก้มผมหลายๆฟอด...
            มือหนาลูบตั้งแต่ต้นแข็งไปยังปลายแขน แถมยังดึงมือผมไปจุมพิตเบาๆทั้งสองข้าง ดีที่ผมยังใส่เสื้ออยู่ ไม่งั้นคงกัดเป็นรอยไปทั่วแน่...
            “กลับมาตอนไหน
            “นี่คินไม่โกรธเหรอ
            “ตอนแรกก็โกรธ แต่พอเช็คดูแล้วไม่มีตรงไหนเสียหาย
            “เช็คไปกี่รอบล่ะ
            “รอบเดียว
            “โม้
            “พูดจริง
            “โม้
            “เอ้า ไม่เชื่อคินอีก...
            “ก็ตอนรู้สึกตัว รู้เลยว่ากำลังโดนปล้ำ
            “เห้ย คินเปล่าทำนะ ไอ้คนหล่อที่ไหนมันทำวะ เดี๋ยวฆ่าให้ตายเลย
            “งั้นก็รีบไปฆ่ามันเลย เร็ว!” ที่ผมพูดนี่หมายถึงให้เขารีบเอาไอ้ที่อยู่ในตัวผมออกไป ไม่ใช่แช่อยู่อย่างนี้ ผมเกร็ง ผมอึดอัด แล้วยิ่งเกร็งแบบนี้กลัวว่าจะโดนต่ออีกรอบ
            “ใจร้าย เมื่อคืนก็ปล่อยให้แฟนนั่งเครียดอยู่คนเดียว ว่าจะไปอยู่ที่ไหนกับใคร กำลังทำอะไรอยู่
            “ถ้าไว้ใจริท คินก็ไม่เครียดหรอก
            “คินไม่ไว้ใจไอ้นั่นต่างหาก
            “งั้นทีหลังถ้าจะตามก็ตามให้เนียนหน่อย ไม่ใช่แต่งตัวพรางแบบพวกศิลปินอย่างนั้น แบบนี้ใครก็มองเห็น...
            “อ้าว นี่รู้เหรอ
            “ริทรู้สิ ไม่รู้ไม่กลับตีสามหรอก ว่าจะแกล้งให้คนแถวนี้ทรมานใจเล่นๆ แต่ไม่นึกว่ากลับมาแล้วกระป๋องเบียร์จะเต็มห้องแบบนี้
            “แกล้งกันแบบนี้เดี๋ยวก็โดนรอบที่สี่หรอก
            นี่แสดงว่าโดนลักหลับไปสองรอบ
            “ออกไปได้แล้ว อึดอัด
            “กำลังอุ่นๆ สบายๆเลย
            ผมเขินเอาหน้ามุดหมอน พอเกร็งตัวปุ๊บร่างสูงก็ร้องเลย หาว่าผมยั่วอีก... เลยต้องนอนนิ่งปล่อยให้อีกคนล่าถอยไปเอง ผมทำท่าเหมือนจะหลับอีกรอบเพราะความอ่อนเพลีย คินเลยถอนตัวออก แล้วไปเอาน้ำมาเช็ดตามง่ามขาที่เปื้อนคราบขาวขุ่นให้ หยิบกางเกงที่ตกอยู่ข้างเตียงมาสวมให้ผมแล้วเขาก็ไปอาบน้ำ
            คราวนี้ผมคงจะได้นอนจริงๆแล้ว



            ช่วงเที่ยงคินพาผมออกไปข้างนอกเพื่อหามื้อกลางวันทาน แต่ร้านประจำของผมก็ไม่ค่อยมี ร้านอาหารจีนนั่นก็เปิดตอนเย็นๆด้วย เลยตัดสินใจฝากท้องไว้กับห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง...เนื่องจากหิวด้วยกันทั้งคู่เลยไม่เรื่องมาก เลือกอาหารที่ถูกปากเราทั้งคู่นั่นก็คือร้านอาหารญี่ปุ่น
            ผมสั่งไปหลายอย่างเลยไม่รู้จะทานหมดหรือเปล่า คินดูอึ้งๆที่ผมสั่งอะไรเยอะแยะขนาดนี้
            “กินหมดเหรอ
            “ไม่รู้ ความจริงนี่อยากสั่งทุกอย่างในเมนู แต่คิดว่าโต๊ะไม่พอ
            “ไม่หมดไม่ช่วยนะ
            “อื้อ
            ผมหิวมากจนยกมือลูบท้อง อาหารก็ยังไม่มาสักที คินก็มองผมตลอดเวลา ไม่รู้จะมองอะไรนักหนา ไหนจะสายตาของคนอื่นในร้านนี้ที่มองมาที่เรา นึกสงสัยว่าเราเป็นอะไรกัน เห้อ ผู้ชายสองคนเดินเข้ามาในร้านแบบประสานมือแถมยังมานั่งจ้องกันด้วยสายตาหวานเชื่อมแบบนี้ ใครจะไม่คิดล่ะครับ
            ความจริงเวลาไปไหนมาไหนด้วยกับคินจะเอาสร้อยที่ร้อยแหวนไว้ข้างใน แต่คราวนี้กลับเอามาไว้ข้างนอก แถมยังใส่เสื้อสีดำตัดกับสีของแหวนอีก มันไม่ยุติธรรมเลยที่ผมต้องใส่แหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย แต่คินแขวนไว้ที่คอ
            “ทีหลังริทขอเอาสร้อยมาร้อยแหวนแบบนี้มั่งนะ ใส่แหวนแล้วเขียนหนังสือไม่ถนัดเลย
            “ถนัดซ้ายเหรอ
            “...
            “เอาเถอะ คินไม่ให้ริทถอด แต่เดี๋ยวคินสวมแหวนเป็นเพื่อนก็ได้” ร่างสูงถอดสร้อยออกพร้อมกับเอาแหวนออกมาจากสร้อยเงิน ก่อนจะยื่นให้ผม แถมยังบังคับให้ผมสวมให้อีก แต่สวมตรงนี้ก็อายนะ คนอื่นจะมองเรายังไง
            “เดี๋ยวค่อยไปสวมให้ที่ห้อง
            “อยู่ห้องไม่มีเวลา
            “แป๊บเดียวเอง ไม่เห็นต้องใช้เวลาอะไรมากมาย
            “ได้อยู่ด้วยกันทั้งทีเราน่าจะใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ชดเชยเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน..
            “ทะลึ่ง พอแล้ว ไม่ให้แล้ว
            “แหนะ ยังไม่ได้พูดเลย
            “ก็...” เถียงไม่ออกเลย ในเมื่อเราคิดเองเออเองคนเดียว คินหัวเราะใหญ่ที่ผมพูดไปถึงเรื่องนั้น ทำหน้ากรุ้มกริ่มล้อเลียนผมจนอาหารมาเสิร์ฟ ผมก็แกล้งงอนไม่พูดไม่จา แต่พออาหารเข้าปากเท่านั้นแหละ อารมณ์ขุ่นมัวก็หายเป็นปลิดทิ้ง ว่าจะไม่พูดกับคนตรงหน้า แต่พอเขาถามว่าอร่อยมั้ยก็ตอบอย่างรวดเร็วทั้งๆที่อาหารยังคาปาก
            ผมทานข้าวหน้าเนื้อ แต่ก็ตักหอมใหญ่ทิ้ง คนที่รับไปกินแทนคือคิน แอบดุผมนิดหน่อยที่ไม่ทานผัก
            “ไปไหนต่อมั้ย
            “กลับคอนโดเลยดีกว่า
            “ดีเลย
            ก็ดีสิ ในรถผมที่ตอนอยู่ที่คอนโด ผมขนงานที่บริษัทกลับมาทำเต็มเลย ว่าจะทำตอนว่างๆ ไม่งั้นงานเยอะๆแบบนี้มันต้องเสร็จไม่ทันเวลาแน่ๆ
            แถมที่นี่มันเป็นห้างดัง ห้างไฮโซ คนที่รู้จักผมเขามาเดินที่นี่กันเยอะมาก ถ้าคนพวกนั้นมาเห็นผมกับคินเดินจับมือกัน มีหวังเรื่องนี้ต้องสะพัดไปทั่วจนถึงหูพ่อกับแม่แน่ๆ
            ผมกินเยอะมากจนรู้สึกว่าเดินไม่ไหว ตอนเดินออกมาจากร้านเลยรู้สึกช้ากว่าปกติ คนเดินเร็วมันก็ดึงมือผมอยู่นั่น จนในที่สุดก็ต้องยอมมาเดินในระดับเดียวกันโดยการโอบไหล่ผมไว้ ฮือออออ แต่เดินแบบนี้คนมองเราเต็มเลย ผมต้องก้มหน้างุดกันคนรู้จักมาเห็น ต่างกับคินที่เดินเชิดหน้าชูตาดูมีความสุขมาก
            “เดินดีๆสิริท ก้มหน้าทำไม กลัวใครเห็นเหรอ...ไม่เงยเดี๋ยวจับจูบกลางห้างนะ
            “บ...บ้า” ผมตอบ “จับมือก็พอ ไม่ต้องโอบหรอก
            “ไม่ได้ เดี๋ยวแฟนหาย
            “จับมือไง ไม่หลงหรอก
            หาข้อบ่ายเบี่ยงเต็มที่จนคินยอมลดมือมากุมมือผมไว้ แต่ผมก็เปลี่ยนเป็นการเอามือมาประสานกันแทน เราจะได้จับมือกันและกัน...
            “ใครถามว่าเราเป็นอะไรกัน ก็บอกไปเลยว่า ‘แฟน’ นะ
            “เอางั้นเลย...
            ผมหรี่ตาถาม ได้คำตอบกลับมาเป็นการพยักหน้า... โอเค แล้วแต่เลย ตามใจ อยากทำอะไรก็ทำ คินดูไม่อยากปิดบัง มีแต่ผมที่ยังไม่อยากบอกให้ใครรู้ เหมือนผมเป็นฝ่ายเห็นแก่ตัว มัวแต่อาย มัวแต่กลัว ไม่แคร์ความรู้สึกของคินแม้แต่น้อย ก็ได้ ๆ ต่อไปนี้ผมจะ...
            “เอ้า คิน...
            ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้เดินสวนกับเราทั้งคู่ ทักทายคนข้างกายผมอย่างคนคุ้นเคย มือผมถูกปล่อยเป็นอิสระทันที ก่อนที่คินจะหันไปทักทายกับเธอคนนั้น
            “สบายดีนะจิน...
            นั่น ชื่อคล้องกันด้วย...
                คินทำเป็นไม่สนใจผม เล่นเอาผมรู้สึกจี๊ดขึ้นกลางอก แต่ผู้หญิงที่ชื่อจินคนนั้นพยายามชะเง้อมองผม แต่เหมือนไอ้ผู้ชายตัวสูงกว่าผมนี่พยายามบังไว้
            “ใครอ่ะ
            “เอ่อ...
            “น่ารักจัง แฟนคินเหรอ
            “เห้ย
            “ครับ...” ผมนี่ตัวร้ายดีๆนี่เอง ถามมาตอบไป คินอึ้งแล้วหันมามองผม ดูก็รู้ว่าแอบยิ้มอยู่ในใจที่ได้ยินผมตอบไปแบบนี้ สาวเจ้าคงถามเล่นๆมั้งครับ แต่ผมดันตอบจริงจัง ก็ช็อคๆ ไปตามๆกัน พอผมตอบไปความรู้สึกจี๊ดๆในอกก็หายไป เหลือแต่ความสบายใจที่เข้ามาแทนที่
            “น่ารักจังเลย คินไปคว้าที่ไหนมาเนี่ย
            “เปิดผอบของพระเจ้าตาแล้วเจอน่ะ
            “ตลก..
            ผมหยิกเข้าให้ คินทำหน้าเหยเก เอี้ยวตัวหนีแรงบิด ท่ามกลางเสียงหัวเราะของผมกับจิน
            “แก้มน่ากัดขนาดนี้ คินไม่ฟัดเช้า ฟัดเย็นเลยเหรอเนี่ย...
            “พูดอะไรน่ะจิน
            “เอ้า ก็พูดความจริง เพื่อนที่เมกาทุกคนก็รู้ว่าหนุ่มไทยคนนี้หื่นเก็บกดขนาดไหน มีแฟนเป็นตัวเป็นตนทั้งทีรู้เลยว่าต้องหลง...
            ผมทั้งเขินทั้งอายจนตัวแดง ในเมื่อที่เขาพูดมันจริงทุกอย่าง ไม่ใช่ที่บอกว่าแก้มผมน่าฟัดนะ หมายถึงเรื่องฟัดเช้าฟัดเย็นกับหื่นเก็บกดต่างหาก เมื่ออีกฝ่ายรู้แล้วว่าเราเป็นอะไรกันมือคินก็มาจับมือผมไว้เหมือนเดิม
            “รีบเปล่า...ไปกินกาแฟกันก่อนมั้ย นานๆเจอกันที
            คินหันมามองหน้าผม ถามประมาณว่า ‘เอาไง’ ผมก็เงียบใส่ แล้วแต่เลย แล้วแต่เลยจริงๆ
            “ไม่ดีกว่า...รีบกลับ มีเรื่องทำอีกตั้งเยอะ เนอะริทเนอะ
            “งั้นขอเบอร์นะ เผื่อจะได้นัดเจอกัน
            “อืม...08-xxxxxxxx”
            แอบรู้สึกไม่ดีนิดหน่อยที่ต้องมายืนฟัง ‘แฟน’ ตัวเองแจกเบอร์ให้คนอื่น กว่าจะล่ำลากันเสร็จผมก็เดินหนีมาก่อนแล้ว โอ๊ย ทำไมรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่าอย่างนี้วะ...
            ตอนแรกก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน แต่ตอนนี้อยากจะประกาศให้โลกรู้ว่าเราไปถึงไหนต่อไหน(?)กันแล้ว .. ฮึ่ยยย
            “ริท!”
            ไม่ต้องมาเรียกเลย.. ตอนนี้ถึงคอนโดเรียบร้อยแล้วครับ ผมกำลังเดินไปที่ห้องอยู่ แต่เดินเร็วไปหน่อยทำให้เหมือนเดินหนี(ความจริงก็หนีนั่นแหละ) อีกคนตะโกนเรียกผมก็ไม่หัน ถ้าบอกว่าผมงอน มันจะดูงี่เง่าไปมั้ย แล้วงอนเรื่องอะไรวะ แค่เขาขอเบอร์กันแค่เนี้ย
            "จะทำงานไม่ต้องตามเข้ามา"
            ดีที่ถืองานติดมือมาแล้ว ขังตัวเองอยู่ในห้อง กะจะสงบสติอารมณ์ด้วยการนั่งทำงาน ข้างนอกก็ทุบประตูห้องนอนเสียงดังปึงปัง ออกจะหนวกหูนิดหน่อย แต่ก็ดีกว่าการไปเผชิญหน้า เอ้า ถ้าคินถามว่าเป็นอะไร จะให้บอกว่าผมงอนเหรอ แล้วเขาก็ต้องถามอีกว่างอนเพราะอะไร ผมมันก็ไม่มีเหตุผลให้เขาด้วยน่ะสิ ไม่งั้นออกไปคุยแล้ว
            พอเสียงเคาะประตูเงียบ ผมก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบายๆกว่ากางเกงยีนส์หน่อย แล้วไอ้พวกเสื้อผ้าที่ใส่สบายๆที่ผมว่ามันก็มีแต่ของคิน ที่เจอตอนนี้ก็มีแต่พวกกางเกงเอวยางยืดที่เริ่มย้วย ขาสั้นเสมอเข่า อย่าหาว่าผมแต่งตัวอ่อยเลย จะให้ไปใส่กางเกงแบบตะขอที่หลวมโครก เวลาเดินไปไหนมาไหนก็คงต้องถือขอบกางเกงไปด้วย
            เจอโต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆ วางพิงไว้ข้างตู้เสื้อผ้า เหมาะจะไว้ทำงาน ผมเลยเอาออกมากางปลายเตียง เห็นเอกสารสีขาวๆ แล้วเหนื่อยเลย...
            ผมทั้งปิดเสียง ปิดสั่น มือถือไว้ คนข้างนอกโทรหาผมเป็นสิบสายละ จนตอนนี้คงถอดใจเลิกโทรไปแล้ว
            โอเค จะได้ทำงานที่เอามาสักที...



            กว่า 10 นาที เสียงประตูห้องก็ดังขึ้นอีกครั้ง ตอนแรกก็จะไม่เปิดหรอก แต่หน้าจอมือถือก็สว่างวาบขึ้นโชว์มีข้อความเข้า...
            'มีดอกไม้มาส่ง ออกมารับด้วยครับ'
            หนอย ง้อเหรอ... ยอมก็ได้วะ
             "ไม่ได้สั่งนี่ครับ" ผมแง้มประตูไป เจอตัวการยืนถือช่อดอกไฮเดรนเยียอยู่ "ส่งผิดที่แล้วมั้งคุณ..."
             "ถ้าคุณเป็นแฟนของผู้ชายที่ชื่อภาคินไม่ผิดแน่ๆครับ"
             "อ่อ งั้นผิดแน่ๆครับ พอดีผมไม่ใช่แฟนเค้า"
             "ถ้าไม่รับไป เด็กส่งดอกไม้คนนี้จะตกงานเอานะครับ..."
             "เสียใจด้วยครับ ผมรับไว้ไม่ได้จริงๆ"
             "ผมผิดไปแล้วครับ คุณเรืองฤทธิ์...รับดอกไม้ด้วยเถอะครับ" อยากจะเอากล้องมาถ่ายรูปเด็กส่งดอกไม้จำเป็นคนนี้ซะจริงๆ แต่ทำไงได้ ต้องแกล้งก่อน ไม่เอาคืนไม่ใช่ผมแน่ๆ
             "รู้เหรอว่าผิดอะไร" ผมถามเพราะผมก็ยังไม่รู้
             "ทีหลังจะไม่ให้เบอร์ใครแล้วครับ...หึงก็บอกกันดีๆสิ อย่างอนแบบนี้"
             "เป็นแค่เด็กส่งดอกไม้ไม่ใช่เหรอ ผมจะไปหึงคุณได้ไง"
             "โถ่..."
             ก่อนที่เรื่องจะไปไกลมากกว่านี้ผมก็รีบคว้าดอกไม้ช่อนั้นมาถือ อีกฝ่ายยิ้ม ตั้งท่าจะเข้ามากอด ดีที่ผมยันไว้ได้ทัน...
             "ไม่งอนแล้วนะ"
             "อือ"
             "จูบหน่อย"
             "ไม่"
             เขย่งเท้าหอมแก้มคินไปทีนึง แล้วค่อยวิ่งหนี จูบเหรอ ไม่เอาหรอก เดี๋ยวเลยเถิด...
             คินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง ผมก็นั่งทำงานของผมไป ดอกไม้ช่อเล็กๆนั้นที่จะคงเดลิเวอรี่มาจากทางร้านผมวางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งเรียบร้อยแล้ว ดอกไม้สีเหลืองๆฟ้าๆ พร้อมการง้ออย่างไม่มีเหตุผล...ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ในวันนี้แล้วกันนะครับ
             ร่างสูงเดินผ่านหน้าผมไปข้างนอกห้อง ก่อนจะกลับมาพร้อมน้ำดื่มและโยเกิร์ต...
             "หิวมั้ยริท"
             "พึ่งกินมาจะหิวอะไรเล่า"
             "แต่คินหิวอีกแล้ว"
             ทำหน้าหงอยแล้วก็มานั่งซ้อนหลังผม ปลายเตียงนั่นแหละ บนเตียงก็มีไม่นั่งนะ มานั่งเบียดให้ผมอึดอัด คนจะทำงานก็กลายเป็นเขียนหนังสือไม่ออกเลย ลืมไปหมดว่าเมื่อกี้จะเขียนในเอกสารการประชุมว่าอะไร
              คนที่บอกว่าหิวนั่งเล่นสมาร์ทโฟน ป้อนโยเกิร์ตเข้าปากตัวเอง ไม่ลืมเผื่อแผ่มาถึงผม ตอนแรกบอกว่าอิ่ม แต่เมื่อมาจ่อชิดริมฝีปากขนาดนี้ผมก็เลยงับไปหลายคำ 
              "งานเยอะเหรอ"
              "เท่าที่เห็น"
              "พอจะมีเวลาให้แฟนตาดำๆ มั้ย"
              อ้อนอะไรอีกเนี่ย...
              "ไม่มีครับ" ผมส่ายหน้า
              "ทำงานเขาเอาไว้ทำที่บริษัท..."
              "ก็มันทำไม่ทัน"
              "ริทคิดว่าห้องนอนเค้ามีไว้ทำอะไร"
              "นอนหลับ"
              "ถ้าไม่อยากนอนอ่ะ เค้าจะเอาไว้ทำอะไร" รู้ตัวว่ากำลังโดนหลอกล่อให้ตอบเรื่องอย่างว่า อาศัยจังหวะจะลุกหนีแต่ก็โดนมือหนากอดรัดเอวไว้ แถมยังกอดผมแน่นมากกะจะไม่ให้หนีไปไหนเลยใช่มั้ย
              "ตอบก่อน"
              "อยากได้คำตอบว่าอะไรล่ะ...ไว้กินข้าว ไว้ทำงานก็ได้นะ" ผมยู่หน้าใส่ ลมหายใจอีกคนก็เริ่มแกล้งรดใส่คอผมแล้ว
              "เอาไว้กอด..." มือคินข้างนึงกอดเอวผมไว้ ส่วนอีกข้างลูบต้นขาผมที่อยู่ภายใต้กางเกงขากว้าง
              "อือฮึ..."
              "เอาไว้หอมแก้ม..." อยากทำอะไรก็ทำไป ผมแกล้งทำเป็นไม่สนใจ เขียนอะไรที่ไม่รู้เรื่องลงบนกระดาษเปล่าข้างหน้า ทั้งที่ความจริงไวกับทุกสัมผัสบนผิวกาย
              คินหอมแก้มผมเบาๆ แถมไล้จมูกลงมาตามข้างๆ ดมมาเรื่อยๆ จนถึงคอ
              "..."
              "เอาไว้จูบ..." ผมตกใจที่คินพูด เลยหันหน้าไปมอง กลายเป็นว่าริมฝีปากหยักแตะลงมาบนปากผมพอดี เม้มนิดๆแล้วผละออก...
              "อือ"
              "หันมาเองนะ..."
              โอเค จะไม่สนใจแล้ว...
              "ริทอยากทำงาน คินก็ตามใจ แต่คินก็อยากทำตามใจตัวเองบ้าง อย่าว่ากันนะ" ไม่ทันได้ร้องห้าม ทั้งกางเกงขาสั้นและกางเกงในถูกมือที่ป้วนเปี้ยนที่ต้นขาผมนานแล้วกระชากออก จนช่วงล่างผมเปล่าเปลือย
              "ค...คิน' ผมเอ่ยเสียงพร่า เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายก็กำลังถกกางเกงตัวเองลง
              "ริทก็ทำงานไปสิ"
              "ค...คิน...โอ๊ะ"
              สะโพกผมถูกยกโดยคนที่นั่งซ้อนหลังผมอยู่ แล้วก็ให้ผมนั่งทับส่วนนั้นลงไป แต่ยังไม่ได้ใส่เข้ามา ผมพยายามดิ้นหนี แต่มันกลับส่งผลร้ายต่อตัวผมเอง เพราะตอนแรกมันยังไม่แข็งขนาดนี้ ผมกลับทำให้มันผงกหัวเหมือนอยากเข้ามาในตัวผมใจจะขาด
              "ทำงานสิครับ..."
              "คิน"
              โดนพรมจูบทั่วคอ เพราะเสื้อยืดที่ใส่ยังอยู่ปกติดี 
              "อื๊อ..."
              "ไม่เกร็งนะที่รัก..."
              มือแกร่งจับเอวผม แล้วบังคับให้นั่งลงไปบนตัวตนของเขาที่ชูชันขึ้นมา มันฝืดๆ เพราะผมไม่มีอารมณ์ร่วมด้วยเลย แถมยังไม่ได้เบิกทางไว้ก่อน ร่างสูงคิดว่าผมจะไม่ปฏิเสธแล้วเลยปล่อยเอว แต่ที่ไหนได้ผมจะลุกหนี
              ปากกาในมือร่วงไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ มือผมตอนนี้เลยวางไว้บนต้นขาแกร่ง จิกเล็บลงไปบนเนื้อขาแข็งๆ คินไม่จับเอวแล้ว เปลี่ยนไปจับก้อนเนื้อทั้งสองข้างแทน เขาแยกช่องทางลับของผมให้กว้างขึ้น แล้วค่อยดึงให้ผมกลืนกินตัวตนเขาไปอีกครั้ง คราวนี้โดนดันเข้าไปลึกสุดทางทีเดียว จุกไปทั้งตัว มวนไปทั้งท้องเลยครับ
            ข้างในอุ่นดีนะ
            “...
            “อือ แน่นด้วย
            “คิน!”
            ผมโกรธหน้าแดง ตั้งใจหันไปลงโทษเขา แต่ก็เอี้ยวตัวไม่ได้ เพราะตัวเราเชื่อมกันอยู่ ไอ้ที่อยู่ในกายผมมันไม่ขยับหรอกครับ แต่มันผงาดเสียจนผมแน่นไปทั้งตัว พูดอะไรไม่ออก...
            ทำงานๆ
            หนอย ทำเป็นลากโต๊ะญี่ปุ่นเข้ามาใกล้ เอาปากกายัดใส่มือผม อยู่แบบนี้ใครจะกล้าทำอะไรอย่างอื่นวะ...
            โกรธ
            พูดคำนี้คำเดียว อีกคนหน้าซีดเป็นไก่ต้ม แต่ใส่มาซะขนาดนี้แล้ว จะให้เอาออกไปเฉยๆ มันจะใจร้ายเกินไปใช่มั้ย
            ...
            เท่านี้เขาก็ไม่บังคับผมแล้วครับ ผมเลยดึงตัวเองออก ลุกขึ้นยืน แล้วเหมือนจะเซ เพราะรู้สึกโหวงๆ
            คินดึงกางเกงตัวเองที่ปลายเท้ามาใส่เหมือนเดิม แล้วทำเหมือนจะลุกหนี แต่ผมดันไหล่ไว้ไม่ให้ยืน
            ไปไหน
            “เมียไม่ยอม ก็ต้องไปช่วยตัวเองสิ
            ..
            “...ใครบอกว่าเมียไม่ยอม
            ผมที่ยังไม่ได้ใส่กางเกง นั่งลงไปดึงกางเกงอีกคนลงไปกองที่เท้าเหมือนเดิม ก่อนจะนั่งลงหันหน้าเข้าหาเขา รับแท่งอุ่นๆสอดเข้ามาภายในกาย อีกคนยิ้มจนแก้มจะฉีกที่ผมทำแบบนี้ ตะกรุมตะกรามระดมจูบผมใหญ่เลยหลังจากที่ส่วนนั้นเราเชื่อมกันสนิท
            ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในโพรงปาก ไล่ต้อนให้ลิ้นผมเล่นด้วย แต่จูบแบบนี้ผมไม่ถนัดเท่าแบบที่ใช้ริมฝีปากเท่าไหร่(จูบกับคินแบบนั้นบ่อย) เลยทำแบบสะเปะสะปะ คินทำไงผมทำตาม...
            มันเสียวซ่านไปทั้งตัว ทั้งมือคืนที่กำลังขยี้หัวนมผมอย่างมันมือ อีกมือก็กำลังลูบไล้ไปทั่วใต้ร่มผ้า
            แฮ่กๆ…” หายใจไม่ทัน จนต้องผละออกมา แล้วหลังจากนั้น คินก็จับเอวผมให้เริ่มขยับขึ้นลง ข้างในผม ผมก็รู้สึกได้ว่ากำลังตอดรัดเขาถี่ยิบตามแรงอารมณ์ เสียงครวญครางของเราทั้งคาทั้งไปทั่วห้อง ตั้งแต่เริ่มทำจนปลดปล่อยเป็นสายธารอุ่น ลมหายใจหอบแฮ่กของเราทั้งคู่ยิ่งเพิ่มดีกรีความร้อนแรงให้กับการเมคเลิฟครั้งนี้ทวีคูณ
            อ๊ะ อ๊า...คิน...ช้าไปหลายคำที่ผมไม่เคยพูด ผมก็ได้พูดออกมาหมด คินบอกอยากให้ผมร้องดังๆ แต่ผมก็อายเสียตัวเอง เลยได้แต่พูดปนเสียงคราง ฟังไม่ได้ศัพท์ แต่อีกคนบอกว่าเพราะ
            อือ ข้างในมัน...อือ...แน่น...
            หลายอย่างที่ไม่เคยทำ ผมคิดว่าวันนี้ทำจนหมด คินแทบจะอุ้มผมไปทุกที่ เขาบอกว่าอยากรำลึกความหลังในครัว เขาก็อุ้มผมไปมีอะไรกันที่นั่น บอกว่าอากาศมันร้อนเขาก็พาผมไปร้องครางดังๆในห้องน้ำ ผนังห้องเขาก็ไม่เว้น ขาผมมันอ่อนแรงแต่ก็ยังยืนได้อยู่ เขาคงจะทำจนเราหมดแรงทั้งคู่ เพราะเมื่อผมยังมีสติเขาก็จะทำซ้ำเดิมอยู่อย่างนั้น
            ผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า...จนผมเริ่มไม่ไหว ดวงอาทิตย์กำลังคล้อยต่ำลง ม่านที่ถูกเปิดไว้ ทำให้เห็นมันกำลังจะลับไปกับหลังคาบ้านหลังนั้นที่อยู่ไกลๆ แสงส้มๆ ที่สาดส่องเข้ามาคงมีผมคนเดียวที่สนใจมัน
            อือ คิน...
            ท่านี้มันทรมานผมมาก คินลงแรงมาที่ตัวผมอย่างหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังมาก น้ำหนักทั้งหมดต้องเทมาที่เข่าผมซึ่งอยู่บนพื้นแข็งๆที่ปูด้วยพรม... แน่นอนครับ ผมกำลังอยู่ในท่าที่หน้าแนบพื้น แต่ก้นกระดก อีกคนคุกเข่าสอดใส่อย่างเมามันอยู่ข้างหลัง
            ผมไม่นึกว่าเราจะทำกันจนถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะลาลับ...
            มันนานเกินไปแล้ว
            แรงกระตุกครั้งสุดท้ายถูกส่งมา พร้อมกับของเหลวอุ่นร้อนที่พุ่งเข้าในตัวผมครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ มันไหลเยิ้มลงมาตามขาตอนที่คินดึงตัวเขาออกไป ไม่แน่ใจเลยครับว่าหลังจากนี้ผมจะยืนได้มั้ย
            พระอาทิตย์หายไปพอดี...
            พอดีกับที่คินอุ้มคนกึ่งหลับกึ่งตื่นอย่างผมไปแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ ปล่อยให้เขาถูกตัวไปมาอยู่อย่างนั้น ตอนล้วงเข้ามาทำความสะอาดภายในให้ ผมยังหลับตาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น... รู้ตัวอีกทีผมก็ถูกอุ้มมาวางไว้บนเตียง เขาสวมเสื้อผ้าให้ผมเรียบร้อย ป้อนยาให้ผมด้วยปาก แล้วค่อยๆประคองให้ผมนอนในอ้อมกอดอุ่นๆ ตลอดคืน
            ร่างกายผมตอนนี้เหมือนทหารที่เพิ่งกลับจากการรบเป็นเวลา 1 เดือนเลยครับ
            ...ระบม...



 -----------------------------------------------
กลับไปอ่านคนเขียนทอล์คขำๆค่ะ + เม้นให้หน่อยยย อยากได้ยินบ่อยๆว่าคิดถึงกัน ♫